วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

สวรรค์ชั้นที่ 1 จาตุมหาราชิกาภูมิ


พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมบนสรวงสวรรค์


ท้าวธตรัฏฐะ:
อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ 
เป็นผู้ปกครองคันธัพพเทวดา



ท้าววิรุฬหกะ : 
อยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ 
เป็นผู้ปกครอบกุมภัณฑ์เทวดา


ท้าววิรูปักขะ : 
อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ 
เป็นผู้ปกครองนาคเทวดา


ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ : 
อยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ 
เป็นผู้ปกครองยักขเทวดา


  • เราขึ้นชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนแล้ว...ควรที่ศึกษาหรือมาทำความรู้จักกับ "สวรรค์" ในความเชื่อทางพระพุทธศาสนา
  • สวรรค์ (สันสกฤต: สฺวรฺค) หมายถึง ภพหนึ่งในคติของศาสนาต่าง ๆ เช่น ศาสนายูดาห์ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามอันเป็นสถานที่ตอบแทนคุณงามความดีของมนุษย์ที่ได้ทำไปเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
  • สวรรค์ในความเชื่อทางพระพุทธศาสนา แปลว่า ภูมิหรือดินแดนที่มีอารมณ์เลิศด้วยดี 
  • จำแนกออกได้เป็น 6 ชั้น คือ 
    • จาตุมหาราชิกา 
    • ดาวดึงส์ 
    • ยามา 
    • ดุสิต 
    • นิมมานรดี 
    • และปรนิมมิตวสวัตดี
  • สวรรค์ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียดอันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา 
  • เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที งดงามตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาจุติ 
  • ไม่มีความแก่บังเกิดขึ้นเหมือนในเมืองมนุษย์ วิมานปราสาทคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม มีขนาดแตกต่างกัน มี ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีอาหารทิพย์บังเกิด ขึ้น 
  • มีบริวารคอยรับใช้ใกล้ชิด เสื้อผ้าเป็นทิพย์ วิจิตรงดงาม บังเกิดขึ้นให้สวมใส่ กิจกรรมแต่ละวันก็มีการเที่ยวเพลิดเพลินบันเทิงอยู่กับการชมสวน การสังสรรค์กันระหว่างทวยเทพทั้งหลาย 
  • ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็น เทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ 
  • ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้
  • สวรรค์ชั้นที่ 1 จาตุมหาราชิกาภูมิ
  • สวรรค์ชั้นแรกอยู่เหนือโลกมนุษย์ขึ้นไป 46,000 โยชน์ เป็นแดนสุขาวดี มีเทวราชผู้ยิ่งใหญ่ 4 พระองค์ ทรงเป็นผู้ปกครองดูแล จึงได้ชื่อว่า จาตุมหาราชิกาเทวภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพ มีท้าวจาตุมหาราช ทรงเป็นใหญ่
  • สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีเมืองใหญ่เป็นเทพนครอยุ่ถึง 4 เทพนคร แต่ละเทพนครมีป้อมปราการ กำแพงทองทิพย์เหลืองอร่ามงามนัก ประดับประดาไปด้วยสัตตรัตนะแก้ว 7 ประการ ภายในเทพนครอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น มีปราสาทแก้ว ซึ่งเป็นวิมานที่อยู่ของเทพยดาชาวฟ้าทั้งหลายตั้งเรียงรายอยู่มากมาย 
  • นอกจากนี้ยังมีสระโบกขรณี ซึ่งมีน้ำใสยิ่งกว่าแก้ว เต็มไปด้วยดอกบัวนานาชนิด ส่งกลิ่นทิพย์หอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ มีดอกไม้นานาพรรณ สีสันวิจิตรตระการตา 
  • และมีรุขชาติต้นไม้สวรรค์ซึ่งมีผลอันโอชายิ่งมิ่งไม้ในสวงสวรรค์ มีดอกมีผลเป็นทิพย์ ปรากฏให้เหล่าชาวสวรรค์ได้ชื่นชมตลอดกาลไม่มีวันร่วงโรยและหมดไปเลย 
  • สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา จำแนกย่อยพื้นที่บริเวณของหมู่เทพละเอียดลงไปอีก ตามขั้นตอนการถือกำเนิดเอาไว้ดังนี้
    • - อุปัตติเทพ
      • การถือกำเนิดด้วยการอุบัติขึ้นมา โดยมีกายทิพย์ หรือ กายละเอียด เป็นวัยหนุ่มสาวขึ้นมาทันใด 
      • ถ้าเป็นเพศชาย เมื่อสร้างบุญไม่มากพอที่จะมีวิมานของตนเองก็จะไปถือกำเนิดเป็นบุตรของเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง 
      • ถ้าเป็นเพศหญิง เมื่อสร้างบุญมาไม่มากพอที่จะมีวิมานของตนเอง ต้องไปถือกำเนิดเป็นบาทบริจาริกาของเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง 
      • ถ้าหญิงหรือชายสร้างบุญไว้น้อยก็จะถือกำเนิดเป็นเทพผู้คอยดูแลในเรื่องเครื่องทรงของเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง 
      • ถ้าสร้างบุญกุศลไว้มากพอ ก็จะอุบัติขึ้นมาเป็นเจ้าของวิมาน พรั่งพร้อมด้วยบริวารและสิ่งของอันเป็นทิพย์
    • - บาดาล : ภพที่ใกล้มนุษย์มากที่สุด มีลักษณะเป็นงูต่าง ๆ
    • - ภูมะ : ที่อยู่ของภูมิเจ้าที่ต่าง ๆ
    • - รุกขภูมิ : ภูมิที่อยู่เหนือหัวเราขึ้นไปเพียงศอกเดียว มีวิมานอยู่บนต้นไม้
    • - ฉิมพลีภูมิ : ดินแดนแห่งเทพผู้มีปีก กึ่งเทพ กึ่งสัตว์ มีฤทธิ์มาก
    • - คนธรรพ์ภูมิ : ดินแดนรอยต่อระหว่างมนุษย์โลกกับเทวโลก
    • - หิมพานต์ : ดินแดนรอยต่อระหว่างมนุษย์โลกกับเทวโลก
    • - บรรพภูมิ : ดินแดน แห่งฤาษีผู้บำเพ็ญพรต ที่หลบลี้จากโลกมนุษย์
    • - อโยธยาภูมิ : ภูมิของผู้มีบุญคุณต่อแผ่นดิน เช่น พ่อหลักเมือง
    • - ลับแลภูมิ : ภูมิของหญิงสาวที่บำเพ็ญเพียร ถือสัจจะเป็นหลัก
    • - ภุมมา : ที่สถิตของเทพบุตร เทพธิดาต่างๆ ที่ยังมีกิเลศ เป็นภูมิที่อยู่ต่อจากมนุษย์ภูมิขึ้นไปมีเทวดาผู้เป็นใหญ่ เป็นมหาราชอยู่ 4 องค์ ได้แก่
      • ท้าวธตรัฏฐะ:อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองคันธัพพเทวดา
      • ท้าววิรุฬหกะ : อยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอบกุมภัณฑ์เทวดา
      • ท้าววิรูปักขะ : อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองนาคเทวดา
      • ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ : อยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองยักขเทวดา
        • มหาราชทั้ง 4 นี้ เป็นผู้รักษามนุษยโลก หรือ เรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล
        • มีหน้าที่สอดส่องดูมนุษย์ที่ประกอบผลบุญแล้วรายงานต่อพระอินทร์ เพื่อให้ได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ มีสถานที่ปกครองตั้งแต่กลางเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงมนุษยโลก 
        • มีอาณาเขตแผ่ออกไปจดขอบจักรวาล เทวดาทั้งหลายที่อยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกาภูมินี้ทั้งหมด เป็นบริวาลภายใต้อำนาจของมหาราชทั้ง 4
  • เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ แล้ว 50 ปีมนุษย์ เท่ากับ 1 วัน ของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ ที่อยู่ของเทวดา
  • เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา มีอยู่ตั้งแต่กลางเขาสิเนรุ จนกระทั่งพื้นดินที่มนุษย์อยู่ทางไปสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...
    • "ถ้าผู้ใดให้ทานโดยหวังผลบุญจากการให้ทาน เมื่อตายไปจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา"
    • "ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวังให้ทานมีจิตผู้พันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน มุ่งการสั่งสมทาน ให้ทาน ด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลแห่งทานนี้ เขาผู้นั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมหาราช"
    • ปล. วิตถตสูตร, อังคุตตรนิกาย อัฏฐกบาต, มก. เล่ม 37 ข้อ 132 หน้า 504.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น