วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

ตอนที่ 5 โลกมนุษย์ ส่วนที่ 4 จบ

ตอนที่ 5 โลกมนุษย์ ส่วนที่ 4 จบ

เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าผมจะคลายปมนี้ ทั้งทหารผมเองและประชาชนเมืองกอร์เดียนได้มาชุมนุม
กันอย่างรวดเร็วบริเวณสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นประจักษ์พยานต่อการกระทำครั้งนี้ บางครั้งผมได้ยิน
เสียงคนหัวเราะจากฝูงชนที่มามุงดู พวกเขามาดูจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ผู้พิชิตศัตรูมากมาย
แต่กำลังจะพ่ายแพ้แก่ปมเชือกง่ายๆนี้ ในที่สุดผมก็เหนื่อยอ่อนต่อการค้นหาวิธีที่จะหาต้นตอของปม
เชือก ผมได้ยินเสียงตะโกนไปว่า "ใหนใครรู้วิธีคลายปมเชือก" และตอนนั้นผมเองได้ชักดาบและฟัน
ปมออกเป็น 2 ส่วนด้วยการตัดเชือกเพียงครั้งเดียว ทันใดนั้นเองได้เกิดฟ้าร้องและมีฟ้าผ่าฟ้าแลบแล้ว
เสียงร้องอันกึกก้องแห่งชัยชนะก็ดังขึ้นมาจากลำคอของเหล่าทหาร ตับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาทุกคนเชื่อ
ว่าผมเป็นทูตแห่งพระเจ้า


แต่การที่เหล่าทหารเทิดทูนผม และความสามารถในการคลายปมเชือก ที่กอร์เดียนไม่ได้เป็นสิ่งแสดง
เกียรติยศเกรียงไกรที่ผมได้รับที่เปอร์เซีย ผมอยู่ที่นั่นเพื่อครองบัลลังก์เปอร์เซีย และเพื่อจะให้สิ่งนี้ลุล่วง
ไปได้นั้น ผมต้องประจัญหน้ากับดาริอุส


ผมและดาริอุสเผชิญหน้ากันตอนฤดูใบไม้ร่วงในปีเดียวกันที่สนามรบดาอิสซุส เมื่อการสู้รบได้เริ่มขึ้น
กองกำลังทั้งสองฝ่ายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ความดุดันแข็งกร้าวที่จะต่อสู้และความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ
กษัตริย์เปอร์เซียและเหล่าแม่ทัพ ช่วงเวลาไม่นานนักก่อนที่กองทัพของกษัตริญ์เปอร์เซียจะแตกพ่าย
เหล่าทหารม้าแตกกระจายและเหล่ากองทหารส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายหรือไม่ก็ถูกจับเป็นเชลย ผมได้เร่ง
ให้บิวเซฟาลุสกระโดดข้ามซากศพศัตรู และเร่งความเร็วข้ามสนามรบไปยังรถศึกคันที่ผมรู้ว่าเป็นของ
กษัตริย์ดาริอุส แต่กษัตริย์เปอร์เซียเห็นผมเข้าประชิดเขาได้กระโดดออกจากรถศึกลงในอยู่ในยานพาหนะ
ขนาดเล็กที่ขับเคลี่อนออกไปในทันที ผมตามไล่กวดอยู่หลายไมล์แต่เขาก็หายไปในความมืด


การหลบหนีของกษัตริย์ดาริอุสบ่งบอกถึงการล่าถอยของกองทัพที่เหลืออยู่ ซึ่งที่ได้ยอมแพ้ผมในทันที ไคลทุส
และเฮฟาธิออนได้อยู่เป็นเพื่อนผม ผมเก็บเสื้อคลุมและโล่ที่ดาริอุสทิ้งไว้ และวางไว้ที่ค่ายรบซึ่งรู้ว่าครอบครัว
ของเขารออยู่


เมื่อครอบครัวของเขาเห็นผมเดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อคลุมและโล่ของดาริอุส แม่และภรรยาของเขาคิดว่า
ดาริอุสตายแล้ว พวกเขาวิ่งถลาซบลงที่เท้าแล้วร่ำไห้อย่างหวาดกลัว และขอความเมตตาต่อครอบครัวและ
ลูกสาวของดาริอุสด้วย ผมสนใจในตัวสตรีเพศเสมอแต่ผมห้ามไม่ให้ทหารข่มขืนหรือทำร้ายสตรีที่ถูกยึดเมือง
เด็ดขาดผมก้มลงพยุงหญิงทั้งสองขึ้นมาอย่างอ่อนโยน และผมได้ทำให้พวกเธอแน่ใจว่า พวกเธอไม่มีอะไรที่
ตัองหวาดกลัวเมื่ออยู่กับผมและผมจะเลี้ยงดูพวกเธอเหมือนครอบครัวกษัตริย์เปอร์เซีย ถึงแม้ว่าผมจะมีสิทธิ์
เอาภรรยาของดาริอุสมาเป็นภรรยาผมเอง ผมก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเลย แม่ของดาริอุสชื่อ ซีซิกัมบิส
กลายเป็นเพื่อนคนซื่อสัตย์มากที่สุดคนหนึ่งของผม ต่อมาเจเรไมได้บอกผมว่า ตอนผมตาย เธอได้หันหน้าเข้า
หากำแพงปฏิเสธที่จะพูดคุยและกินอะไรจนกระทั้งตัวเองตาย


แต่ดาริอุสยังไม่ถูกจับและขณะนี้ยังลอยนวลอยู่ ผมไม่อาจครองบัลลังก์หรือมงกุฎได้ ผมรู้ว่าเขาได้ครอบครอง
อาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลและมีพรัพย์สินมั่งคั่งมหาศาลผมเลยตัดสินใจที่จะ ดำเนินการติดตามเขาต่อไป
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเริ่มทำการนี้ ผมต้องแน่ใจว่าบัลลังก์ของผมเองปลอดภัยเมื่อกลับไปยังมาซีโดเนียเพื่อให้
สิ่งนี้สำเร็จผมเริ่มโจมตีเมืองไทร์ (Tyre) ซึ่งเป็นเมืองที่มีป้อมปราการแข็งแกร่งของชาวฟินิเชียน และ
เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถ้าผมได้ครอบครองเมืองไทร์ ผมรู้ดีว่าจะได้ปกครอง
ดินแดนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้้งหมดและสามารถขับไล่การโจมตีจากทุกกองทัพที่จะตีกรีซได้


ผมเริ่มโจมตีเมืองไทร์ครั้งแรกด้วยวิธีทางทูต ผมส่งทูตไปเจริญใมพันธไมตรีหลายคนไป พบผู้บังคับบัญชาการ
กองทหารคุ้มกันโดยถามเขาว่า จะร่วมมือกับผมและหลีกเลี่ยงการนองเลือดหรือไม่แต่เหล่า บรรดาผู้นำเมือง
ไทร์มั่นใจว่ากำแพงเมืองของพวกเขาสามารถต้านทานข้าศึกได้ คำตอบของเขาก็คือ การลอบฆ่าทูตทุกคนของ
ผม โดยทิ้งศพไว้ที่แนวกำแพงเมือง


ผมรับรู้ข่าวนี้และเตรียมตัวออกรบ ผมต้องใช้เครื่องยิงและกระทุ้งกำแพงประตูเพื่อทำลายกำแพงแต่ฐานกำแพง
ได้อยู่ลึกลงไปในน้ำ และในการใช้เครื่องยิงธนูนั้นต้องอาศัยดินที่แข็งยิ่ง

อุปสรรคที่เห็นอยู่นี้ไม่อาจยับยั้งผมซึ่งมีความแน่วแน่ที่จะพิชิตเมืองไทร์ให้ได้ ถ้าต้องการดินแข็งมาใช้กับเครื่อง
ยิงธนู ผมก็น่าจะสร้างดินแข็งที่ว่านี้ขึ้นมา ผมคิดเป็นครั้งที่ 2 ว่าเป็นไปได้ ผมจึงเรียกแม่ทัพมาชุมนุมและบอก
แผนการแก่พวกเขาว่า เราจะสร้างถนนข้ามลำน้ำไปตีเมืองไทร์ แผนการที่ทะเยอทะยานและซับซ้อนได้ผลใน
ทันที การก่อสร้างถนนใช้เวลา 6 เดือนซึ่งเป็นช่วงเวลาเหล่าทหารของผมต้องอดทนต่อความยากลำบากที่ยากจะ
อธิบายได้ ฟวกฟินิเซียนได้ระดมยิงและขว้างสิ่งต่างๆ มาที่กองทัพเราเพราะรู้ถึงจุดประสงค์ของถนนที่สร้างขึ้นมา


การสร้างถนนจนเสร็จนั้นใช้เวลานาน เราได้ยกเครื่องยิงธนูโดยใช้เครื่องตอกเสาเข็มเข้าร่วม และได้สร้างผล
งานในระยะเวลาสั้นของราชินีที่ภาคภูมิใจแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียม สิ่งที่กษัตริย์ เนบูซับฮัสซา (Nebuchadnezzar)
กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบาบิโลเนียไม่สามารถทำได้สำเร็จนั้น ผมได้ทำสำเร็จแล้วด้วยความหนักแน่นและสติ
ปัญญาอันหลักแหลม แนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงกลายเป็นของผม ผมได้สร้างความฝันของพ่อผม
ให้เป็นจริงแล้ว


เมื่อดาริอุสซึ่งกบดานอยู่ได้ยินข่าวชัยชนะของผมครั้งล่าสุดเขาเขียนจดหมายถึงผมในทันทีโดยเสนอที่จะให้ดิน
แดนอาณาจักร กึ่งหนึ่งทางตะวันตก บุคคลที่มีความสามารถเก่งกาจ 10,000 คน และยกลูกสาวคนหนึ่งให้
แต่งงานกับผม ต่อมาเจเรไมได้บอกผมให้ยอมรับข้อเสนอนี้ วัฒนธรรมเฮเลนิกก็จะสิ้นสุดลงที่เปอร์เซีย ด้วย
เหตุนี้เอง สาส์นของดาริอุสที่ส่งมานั้นทำให้ผมเค่หัวเราะเยาะและปฏิเสธไปอย่างดูแคลน


ในช่วงนี้ผมได้เสาะแสวงหาศิลปะ ปรัชญาและวัฒนธรรมอันสูงส่งของมาตุภูมิของตนเองไปเผยแพร่ยังส่วนที่
เหลือของโลกยุคโบราณ ซึ่งได้ส่งผ่านไปยังกรุงโรม และส่วนอื่นของโลก

ถัดจากการโจมตีเมืองไทร์ ผมได้ไปตีอียิปซึ่งผมพิชิตชัยได้อย่างไม่เหนื่อยแรง ชาวอียิปต์อ้าแขนต้อนรับผม
และไม่เพียงจะแต่งตั้งผมเป็นฟาโรห์เท่านั้น แต่ยังประกาศว่าผมเป็นพระเจ้าที่กลับมาเกิดอีกด้วย สิ่งนี้ไม่ได้
ทำให้ผมแปลกใจแต่อย่างใด แม่บอกผมเสมอว่า เทพเจ้าแห่งโอลิมเปียองค์หนึ่งจะทำให้ผมได้รับอันตราย
แต่ไม่ใช่พระเจ้าฟิลิปแห่งมาซีโดเนีย ผมได้บริจาคทานครั้งใหญ่แก่ชาวอียิปต์ สร้างเมืองให้แข็งแกร่ง แก้
ปัญหาน้ำท่วมและชลประทานและอนุญาตให้ชาวอียิปต์สักการะบูชาเทพเจ้าโบราณของตนต่อไปนอกจากนี้
ผมได้ประกาศว่าเทพเจ้าแแอมมอนของชาวอียิปต์ก็เหมือนกับเทพเจ้าซุส ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดของชาวกรีก
ผมบอกชาวอียิปต์ว่าถ้ามีพระเจ้าอยู่จริง และเป็นที่แน่นอนว่าพระเจ้าสร้างตัวเองขึ้นมาดังนั้นมีพระเจ้าเพียงองค์
เดียว แต่พระองค์นั้นมีหลายชื่อ คำพูดประโยคนี้ทำให้ผมได้รับความรักที่ยาวนานและความเคารพนับถือ
อย่างสูงจากชาวอียิปต์


แต่สิ่งสำคัญที่ผมใด้ทำในอียิปต์ คือการสร้างเมืองอเล็กซานเดีย ผมต้องสร้างเมืองนี้ให้เป็นเมืองที่สวยงามและ
มั่งคั่งที่สุดในโลก เพราะเมืองนี้เป็นที่มาของชื่อผม อเล็กซานเดรียเป็นเมืองทันสมัยที่เพียบพร้อมเมืองแรกที่
ก่อสร้างโดยมีแนวถนนขนาดใหญ่ตัดกับถนนสายเล็ก ไม่นานนักอเล็กซานเดรียก็เข้ามาแทนที่เมืองไทร์ใน
ฐานะที่เป็นศูนย์กลายการค้าที่สำคัญของดินแดนนี้ และกลายมาเป็นเมืองติดต่อกับต่างประเทศที่สำคัญของ
ดินแดนนี้ และกลายมาเป็นเมืองติดต่อกับต่างประเทศที่สำคัญในเวลานั้น ชาวกรีก เปอร์เซีย อินเดีย ยิว และ
คนเชื้อชาติต่างๆ ได้วนเวียนมาแวะเยี่ยมที่ท่าเรือแห่งนี้


ดาริอุสได้เขียนสาส์นถึงผมอีกครั้ง แต่คราวนี้เสนอให้ช่างทองจำนวน 20,000 คน ผมได้ปฏิเสธข้อเสนอไปอีก
ครั้งและได้สัญญาว่าจะสู้รบกับเขาอีกครั้งหนึ่งแทน คราวนี้ผมได้ประจัญหน้ากับเขาที่โกกาเมลา (Gaugamela)
อันเป็นสนามรบที่ผมได้ทำให้ดาริอุสพ่ายแพ้มาแล้วครั้งหนึ่ง และเขาต้องหลบหนีไปเป็นครั้งที่สอง


การต่อสู้ครั้งต่อไปกับเมืองบาบิโลเนีย การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็วและลงเอยด้วยชัยชนะ ผมใช้เวลาในเดือนถัด
ไปพักผ่อนในสวนลอยของกษัตริ์เนบูซัดเนสซากับเหล่าสหาย คือ ไคลทุสและเฮฟาธิออน รวมทั้งกองทหารที่
เหลือ ถัดจากครองเมืองบาบิโลนแล้วผมได้พิชิตเมืองซู่ซ่า และเปอร์เซโปลิส เมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซีย
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ผมมีโชคนำช่างทองเกือบ 20,000 คน


เปอร์เซโปลิสเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวเปอร์เซีย เหมือนกับที่เยรูซาเล็มเมืองของชาวยิว และเมกกะเป็นเมือง
ของชาวมุสลิมเปอร์เซโปลิสเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรแห่งกษัตริย์ดาริอุสผมได้สั่งให้ทหารกลบและเผา
เมือง เพื่อชาวเมืองเปอร์เซียและกษัตริย์ดาริอุสที่หลบหนีไปเข้าใจว่าอาณาจักรของตนเองได้ล่มสลายแล้ว จาก
นั้นผมได้เผาปราสาทราชวัง แล้วสร้างพระราชวังของผมเองขึ้นมาใหม่ ผมไม่เคยนอนหลับใต้ชายคาของอริศัตรู


ดาริอุสยังหลบหนีผมต่อไป และผมก็มั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วจะต้องพบตัวเขา มิฉะนั้นจะกลายเป็นความพยายาม
ที่สูญเปล่า ในที่สุดผมได้ไล่ต้อนกษัตริย์ดาริอุสจนมุมที่เมืองเล็กๆที่ชื่อ เอ็คบาตาน่า บริเวณเทือกเขาเคอร์ดิช
แต่ดาริอุสหลบหนีผมอย่างถึงที่สุด ก่อนที่ผมจะได้ตัวเขามานั้น เบสซุส แม่ทัพคนหนึ่งของเขาเองได้ลอบฆ่า
ดาริอุส เมื่อผมได้ยินต่อหน้าศพดาริอุส ผมคลุมศพเขาด้วยเสื้อคลุมและส่งศพเขาให้แก่มาดาเพื่อทำพิธีฝังศพ


เบสซุสมีความหยิ่งทะนงองอาจที่จะขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ อาร์ตาเซอร์เซสที่ 4 แห่งเปอร์เซีย ผมพบว่ามี
บางสิ่งกลายเป็นเรื่องน่าขบขัน ถ้าผมไม่กระทำการโดยเร็ว ผมเลื่อนการต่อสู้ครั้งต่อไปออกไปและล่าตัวเบสซุส
เมื่อผมพบเขาผมได้ตัดจมูกและใบหูตามแบบอย่างชาวเปอร์เซีย แล้วส่งตัวไปยังเมืองเอ็คบาตานาเพื่อไต่สวน
คดีข้อหาเป็นผู้ทรยศกบฏชาติ ชาวเปอร์เซียและเมดิสได้พิสูจน์ว่าเบสซุสมีความผิดและตัดสินใจขังเขา


หลังจากที่ดาริอุสตายไปแล้ว ผมตัดสินใจบุกอิหร่าน ซึ่งผมก็ได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นไม่นานผม
ก็แต่งงานกับเจ้าหญิงชาวแบคเทรียนชื่อ โรซาน่า ผมไม่ได้รักเธอหรอก แต่การแต่งงานของเราเป็นกุศโลบาย
ทางการเมืองที่ตั้งใจเกี่ยวดองกับพ่อและประชาชนของเธอ ผมต้องการรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ และผมรู้ว่าการ
แต่งงานกับหญิงเปอร์เซียนั้น จะช่วยให้ผมได้รับแรงสนับสนุนจากชาวเปอร์เซีย


ทหารในกองทัพและเหล่าสหายต่างไม่ยินดีต่อการแต่งงานกับโรซาน่า พวกเขาคิดว่าผมถูกครอบงำจากอิทธิพล
ชองชาวตะวันออกและลืมรากเหง้าความเป็นชาวกรีกไปแล้ว ผมเริ่มแยกตัวเองเหินห่างจากเพื่อนสนิทและทหาร
ทีละเล็กทีละน้อย ผมเริ่มสงสัยและหวาดระแวงทุกคนรอบตัวผม ผมมั้นใจว่าทุกคนพยายามจะสังหารผม


ความหวาดระแวงและความกลัวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยได้มุ่งไปที่ลูกชายของพาร์เมนิโอ ซึ่งเป็นแม่ทัพเก่าแก่
และน่าเชื่อถือมากที่สุดของผม ผมสั้งฆ่าเด็กหนุ่มคนนี้เพื่อหยุดคิดเรื่องกบฏที่ผมครุ่นคิดขึ้นมา แต่ผมยังไม่สนใจ
ต่อการสังหารครั้งนี้ ผมได้สั่งให้ฆ่าพาร์เมนิโอด้วย เพราะหวาดกลัวเรื่องการแก้แค้น พาร์เมนิโอมีอายุชรามาก
กว่า 70 ปี และเป็นที่นิยมชมชอบของเหล่าบรรดาแม่ทัพนายพลพวกเล่าทหารไม่เคยยกโทษให้ผมที่เขาได้ตายไป


จากอาชญากรรมที่อาจจะให้อภัยได้ จิตใจผมเริ่มตกต่ำลงทุกที ผมเคยเป็นคนสมถะมาตลอด แต่ตอนนี้ผมเริ่ม
ดื่มเหล้าหนักทุกคืนหนักมากจนผมหมดสตินอนหราอยู่บนพื้น ผมรู้สึกอ้างว้างและสูญสิ้น ระหว่างที่ผมได้เลี้ยง
ฉลองกับเพื่อนไม่กี่คนที่เหลือไคลทุสซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็กคนสนิทเก่าแก่ที่เคยช่วยชีวิตผมในการรบที่การนิคัส
เขากล้าด่าผมผมขาดสติเนื่องจากดื่มไวท์และเกิดโทสะผมหยิบดาบและแทงไคลทุสล้มลไปบนพื้นแน่นิ่งตายคาที่


การฆ่าเพื่อนที่ซื่อสัตย์ทำให้ผมรู้สึกผิดจนต้องขังตัวเองอยู่บนเตียงถึง 3 วันและไม่แตะต้องข้าวปลาอาหาร ในที่
สุดหมอได้กล่อมผมว่า การกระทำที่ร้ายแรงครั้งนี้ไม่ได้เป็นความผิดผม แต่จากความบ้าคลั่งของพระเจ้า สิ่งนี้
ช่วยบรรเทาความรู้สึกและคลายความโศกเศร้า แต่ไม่ได้หยุดความหายนะของตัวผมได้เลย ผมกลายเป็น
กษัตริย์กดขี่และทรราชย์ แม้แต่อาจารย์คนเก่าอย่างอริสโตเติ้ลก็ได้สาปแช่งผม

การต่อสู้ดิ้นรนของผมในคราวหน้าและเป็นครั้งสุดท้าย ผมยกทัพไปอินเดีย ที่นั่นผมได้พบกับนักบวชทรงศีลที่
รู้จักในนาม ครุ ผู้หนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผมตลอดเวลาที่เหลือในชีวิตผม ในที่สุดเมื่อถึงอินเดีย กองทัพผมได้ต่อต้าน
ไม่ยอมร่วมในตัวผมอีกต่อไปในช่วงฤดูฝนของเขตร้อนพวกเขารู้ว่าผมไม่กลับไปกรีซจนกว่าจะชิตทั่วทุกมุม
โลก พวกทหารอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและขยาดต่อการต่อสู้ สิ่งที่พวกเขาอยากจะทำก็คือกลับไปกรีซและวางมือ
จาการสู้รบ ผมหลบเข้าไปอยู่ในเต้นท์ที่พักตามสำพังถึง 2 วัน ผมทั้งโกรธและขมขื่นที่เห็นความฝันที่จะพิชิต
ชัยชนะต้องล้มคลืนถึงจุดสิ้นสุด ผมรู้ว่าพวกทหารสมควรได้หยุดพักเป็นเวลานาน แต่ไม่มีทางที่ผมจะหยุดความ
ฝันอันเรืองรองนี้ไปได้


ผมแน่วแน่ที่จะสู้รบต่อไปจนกว่าโลกที่ตนรู้จักทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การปกครองของผม แต่ผมก็รู้ว่า ความฝันนี้
ไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนที่ยินยอมพร้อมใจจากเหล่าทหาร ดังนั้นผมจึงตัดสินใจยอมผ่อน
ปรนและเห็นด้วยกับความต้องการของพวกทหารหลังจากได้พักผ่อนพอสมควร ผมลงเรือจับศึกครั้งสุดท้ายและ
มีเกียรติมากที่สุด ไม่ช้าก็เร็วโลกทั้งหมดจะสยบแทบเท้าผม เมื่อผมได้ตัดสินใจแล้ว ผมออกจากเต้นท์ด้วยรอยยิ้ม
ที่เบิกบานบนใบหน้า และบอกแก่ผู้บังคับการกองพันทหาร โคนุส ให้บอกต่อกับเหล่าทหารว่าผมยินยอมตกลง
ในคำร้องขอ เหล่าทหารปรบมือรับการตัดสินนี้ และในวันต่อมาพวกเราจึงเริ่มเดินทัพกลับมายังเปอร์เซีย


การกลับมาครั้งนี้ยากลำบากทีเดียว ต้องผจญกับการกบฏภายในกองทัพ โรคร้าย และทหารล้มตามเป็นจำนวน
มาก สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากพลังหายนะของลมมรสุมอินเดีย เมื่อถึงเมืองซูซ่าอันเป็นศูนย์กลางการบริหารของ
อาณาจักรเปอร์เซีย ผมได้กำหนดให้มีการรวมชนชาติมาซีโดเนียและเปอร์เซียเข้าด้วยกัน ผมแต่งงานกับลูกสาว
คนหนึ่งของดาริอุสที่ชื่อ บาซีเน เพื่อดำเนินนโยบายดังกล่าว ในขณะที่เฮฟาสธิออนเพื่อนผมได้แต่งงานกับลูกสาว
ดาริอุสอีกคนหนึ่งชื่อ ดรายพิทิส ประชาชนจำนวน 10,000 คน และนายทหารอีก 80 คน ได้ปฏิบัติตามอย่างผม
และแต่งงานกับหญิงชาวเปอร์เซียด้วย


การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ต้องเผชิญกับความเป็นปรปักษ์อย่างเปิดเผยจากชาวมาซีโดเนียในกองทัพผม ผมรู้สึก
เบื่อหน่ายและเกลียดชังต่อทหารในกองทัพทั้งหมด ผมจึงปลดทหารทั้งกองทัพและส่งหลับไปกรีซ แต่ผมก็ฉลาด
รอบคอบโดยให้ทองจำนวนมากแก่พวกเขารวมทั้งของกำนัลราคาแพงเพื่อปิดปากพวกเขาตลอดไป กลอุบายนี้
ได้ผลและเอาชนะวิกฤติการณ์อันนี้ไปได้ เมื่อผมได้ปลดทุกคนหมดทั้งกองทัพ ผมสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่ คราว
นี้ประกอบด้วยชาวเปอร์เซียทั้งหมด ซึ่งสามารถรวมตัวกันได้ง่าย แต่ผมรู้สึกอ่อนแอและเหนื่อยหน่ายเสียแล้ว
ร่างกายของผมบอบช้ำจากบาดแผลที่บาดเจ็บในครั้งก่อน


ช่วงนี้เองโชคชะตาได้ลิขิตให้ผมต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสในชีวิต เพื่อนรักที่ชื่้อเฮฟาสธิออนได้ตายลงกะทันหัน
ด้วยอาการไข้การตายของเขาได้ทำลายสิ่งที่ผมเหลืออยู่ ผมขังตัวเองอยู่ 3 วันนั่งข้างศพเพราะไม่อยากทิ้งเขาไป
เมื่อผมออกมาจากที่เก็บศพ ผมได้สั่งประหารหมอโดยกล่าวหาว่าไร้ความสามารถ งานศพของเฮฟาสธิออนเป็น
งานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ผมไม่เคยคลายความโศกเศร้าจากากรสูญเสียเขาไปเลย


หลังจากเฮฟาธิออนตายไปหลายเดือน ผมเริ่มล้มป่วยลงหลังจากดื่มสุราเป็นระยะเวลานาน แพทย์หมดปัญญาที่
จะรักษาเยียวยาได้ แม้ว่าบางคนสงสัยว่าผมเป็นไข้มาลาเรีย ข่าวที่ล่ำลือกันว่าผมถูกว่างยาพิษได้แพร่สะพัดออก
ไป แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย สิ่งที่ฆ่าผมก็คือความโศกเศร้าตรอมใจต่อการตายขอบเฮฟาธิออน และ
การสำนึกผิดต่อการฆ่าสองพ่อลูก ไคลทุสและพาร์เมนิโอ พวกเขาเป็นเพื่อนแท้ที่ผมรู้จักในชั่วชีวิต ชีวิตของ
พวกเขาคือความรักอันแน่นแฟ้นเพียงอย่างเดียวที่ได้จุดประกายวิญญาณของผม ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือภรรยา
ผม ก็ยังไม่สามารถเข้ามาสัมผัสจิตวิญญาณของผมหรือเข้าใจตัวผมได้มากเท่าพวกเขาเลย ลูกคนเดียวของผม
ยังไม่ได้ถือกำเหนิด และคงไม่อาจได้แสดงความรักต่อผม


วันที่ 13 มิถุนายนก่อนคริสตศักราช 323 เวลา 6 โมงเย็นวิญญาณที่กลุ้มรุมรุ่มร้อนก็เป็นอิสระออกร่างกายและ
ไปสู่สภาพความเป็นวิญญาณ ตามตำนานต่อมาเล่าว่ามีฟ้าผ่าอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่ทะเลและแผ่กระจายไปถึงบน
สรรค์ โดยได้พัดพาเอานกอินทรีและดาวดวงหนึ่งไปไว้อยู่ตรงกลางท้องฟ้า เมื่อดาวดวงนั้นเลือนหายไป ผมจึง
ได้หลับตาชั่วนิรันด์ ผมมีชีวิตอยู่บนโลกแค่ 33 ปี ตลอดเวลาที่ผมมีชีวิต ผมเป็นจรรพรรดิและผู้ยิ่งใหญ่ของโลก
และยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าบางองค์ แต่ผมไม่เคยรู้จักความสุขและไม่มีใครหลั่งน้ำตาเมื่อผมตาย


อาณาจักรของผมถูกแบ่งและถูกยึดครองโดยพวกแม่ทัพของผม โรซาน่า ภรรยาคนแรกของผมของผมได้ลอบ
ฆ่าภรรยาคนที่ 2 ที่ชื่อบาร์ซิเน่ ที่เป็นลูกสาวของดาริอุส ต่อมาศัตรูของเธอคนหนึ่งก็ได้ฆ่าเธอและลูกชายตัวน้อย
รวมทั้งโอลิมเปียสแม่ของผม ไม่มีใครหลงเหลืออีกเลยในวงศ์ตระกูลหรือแม้แต่เลือดเนื้อของผมในโลกมนุษย์
มันเป็นเหมือนราวกับว่าพระเจ้าตัดสินใจว่า เผ่าพันธุ์วงศ์ตระกูลของผมได้สูญสิ้นไปพร้อมๆ กับการสิ้นชีพของผม


เจราไม่และโจแอ็บพูดถูกต้องเมื่อพวกเขาทำนายถึงชีวิตที่ต้องระทมด้วยความทุกข์และความหายนะบนโลก
มนุษย์ แต่ผมไม่เสียอกเสียใจในเหตุการณ์นี้เลย ผมกระทำความผิดและก่อกรรมทำเข็ญมานับไม่ถ้วน ผมเป็น
คนที่โหด กดขี่ทารุณและอำมหิต และยังใช้อำนาจกดขี่ปราศจากความเมตตาสงสาร ผมไม่ขอแก้ตัวต่อการ
กระทำความชั่ว นอกจากความอ่อนแอของตนเอง แต่ความตั่งใจของผมก็สูงส่ง แม้ผมจะประสบความล้มเหลว
มาหลายครั่ง แต่ภาระหน้าที่ของผมไม่ได้สูญสิ้นเลย ผมมีความคิดที่จะให้โลกเป็นเอกภาพอันเป็นความคิดที่
เปลี่ยนแปลงจากเดิมในเวลานั้น และผมขยายขอบเขตอรรยธรรมจากกรีกไปสู่อินเดีย ผมจุดประกายความ
รุ่งโรจน์ให้กับโลกด้วยแนวคิดแบบอริสโตเติ้ล ผมทำให้วรรณคดี ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ตามแบบฉบับเฮเลนิค
เจริญเฟื่องฟู จากความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงนี้ ประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ได้ตั้งฉายาให้กับผมว่า
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช แต่สิ่งนี้ทำให้การเดินทางของวิญญาณสิ้นไป วันเวลาหลายศตรรวษต้องฟันผ่า
ผ่านพ้นไปก่อนที่ผมจะได้พบกับเวอร์ดิกริสอีกครั้งหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น